"แบคบูม" คือ ??? by Tom Nagasara
Last updated
by
hipfood
"แบคบูม" คือ ???
Boom (บูม) = เจริญ, เพิ่มขึ้น
การใส่แบคลงตู้ไปเยอะๆ เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถทำให้เกิดภาวะ "แบคบูม" ได้ครับ เนื่องจากแบคเป็น สมช.จะเติบโต/ขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนได้นั้นต้องมีอาหารที่เหมาะสมและเพียงพอ หาไม่แล้วการเติมเพียงแบคลงไปเยอะๆ อาจจะเป็นการสิ้นเปลือง/สูญเปล่ามากกว่า อาหารหลักของ สมช.รวมทั้งแบค ก็หนีไม่พ้น C - Carbon, N - Nitrogen, P - Phosphorus ซึ่งแน่นอนว่า C เป็นธาตุที่ สมช.ต้องใช้มากที่สุดครับ
ถ้าให้ยกตัวอย่างให้เห็นชัดก็ลองนึกถึงการทำพวกน้ำหมักชีวภาพก็ได้ครับ ทำไมน้ำหมักชีวภาพมักมีสีน้ำตาล ก็เนื่องจากเป็นการนำเอาหัวเชื้อจุลินทรีย์มาหมักกับเศษซากชีวภาพ เช่น เศษผัก/ผลไม้/ปลา ฯลฯ แล้วเติมด้วยกากน้ำตาล(แบะแซ) ซึ่งเป็นแหล่ง Organic Carbon ราคาถูกนั่นเอง ทำไมถึงต้องเติมกากน้ำตาลลงไป? ก็เพราะต้องการให้แบคสามารถเพิ่มจำนวนได้เยอะๆ และย่อยสลายเศษซากชึวภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือจะเรียกว่า "แบคบูม" นั่นก็พอได้ครับ
บางท่านอาจจะแย้งว่า อ้าว..แล้วทีพวก Nitrifying Bac. ที่เกิดตามหินตามทรายตอนรันตู้ทะเลล่ะ ไม่เห็นต้องมาเติมคาร์บ้งคาร์บอนให้มันวุ่นวายเลยแค่ใส่เนื้อกุ้งแล้วก็รอให้มันเน่าสลายสัก 1 เดือนก็ ok ละ ปลาก็ปลอดภัยดี ก็ต้องขอบอกว่ามันเป็นแบคคนละประเภทกันนะครับ ถ้าตู้เรามีแต่ Nitrifying Bac. สุดท้ายก็ยากที่จะพ้นภาวะของเสีย (NO3, PO4) สูงปรี๊ด ยกเว้นว่าจะเลี้ยงปลาน้อยๆ หรือ ขยันถ่ายน้ำอย่างหนักมากๆ จริงๆ ซึ่งปัญหานี้ทำให้ผู้เลี้ยงตู้ทะเลส่วนใหญ่ไม่สามารถรักษาคุณภาพน้ำได้ดีในระยะยาว เพราะค่อนข้างเปลืองกำลังกาย กำลังทรัพย์ และเวลา พอยุ่งๆ เหนื่อยๆ หนักเข้า, ปกร.เริ่มตายก็จะท้อ/เบื่อแล้วยุบตู้ทิ้งกันไป
แต่ธรรมชาติฉลาดกว่านั้นครับ โลกเราจึงเต็มไปด้วยวัฏจักรต่างๆ วนเวียนกันไปเรื่อยๆ ไม่รู้จบ แร่ธาตุต่างๆ ก็มักจะถูกแปรสภาพกลับไปกลับมาระหว่าง Inorganic (อนินทรีย์) <--> Organic (อินทรีย์) โดยเฉพาะตัวที่สำคัญที่สุดก็คือ Carbon นั่นเอง เช่น
พืช แปลง CO2 (Inorganic Carbon ) --> Carbohydrate (Organic Carbon) โดยผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสง
แบคฯ มีหลากหลายมากครับ เช่น ...
Nitrifying Bac.(เป็น Autotrophic Bac. ประเภทหนึ่ง) ที่เจริญเติบโตช้า แม้ต้องการ O2 เพื่อใช้ในกระบวนการ oxidize NH3, NO2 แต่มันก็ต้องการใช้ Inorganic Carbon จาก CO2 ด้วยครับ (เราจึงไม่จำเป็นต้องเติม VSV ในตอนตั้งตู้ ถ้าจะเน้นสร้าง Nitrifying Bac.ตามวงจรไนโตรเจน(แบบเดิมๆ ที่เคยทำกันมา)ครับ)
ส่วน Heterotrophic Bac. (มีหลายสายพันธุ์มากๆ) ซึ่งเป็นตัวที่จริงๆ มักทำให้เกิดภาวะแบคบูมเพราะเจริญเติบโตและเพิ่มจำนวนได้เร็วมาก (\~ทุกๆ 20 นาที) นั้น กลับต้องการใช้ Organic Carbon เช่น กากน้ำตาล, VSV เป็นอาหาร ซึ่งเมื่อมันใช้ C มันก็ต้องการใช้ N & P ไปด้วย มันจึงเป็นแบคที่นิยมนำมาใช้ลดปริมาณของเสียในตู้ทะเล แต่ถ้าไม่มี Organic Carbon Source ช่วย มันก็จะไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ถึงแม้จะเติมแบคลงไปมากๆ ก็ตามทีครับ
ถ้ายกตัวอย่างแบคอาจจะนึกภาพไม่ออกครับ แต่ถ้ายกตัวอย่างเทียบเคียงเรื่องพืชอาจจะพอเห็นภาพชัดขึ้นนะครับ เช่นสมมติว่าเราปลูกพืชใส่ปุ๋ยรดน้ำโดนแดดอย่างดี แต่เราเอาถุงพลาสติกใสครอบและไล่อากาศออกไม่ให้พืชได้รับ CO2 (Carbon Source สำหรับพืช) พืชก็ไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ ไม่สามารถเติบโตได้ แม้จะมีปุ๋ยซึ่งหลักๆ ก็คือ N P K อย่างมากมาย พืชก็ไม่สามารถนำปุ๋ยไปใช้ประโยชน์ได้ครับ ในทำนองคล้ายกันถ้าเราเติม Heterotrophic Bac. ลงไปเพื่อให้ไปช่วยลดของเสีย (N, P) ในตู้ทะเล โดยไม่เติมแหล่ง Organic Carbon Source เช่น VSV, Bio pellets ลงไปช่วยมันด้วย แบคนั้นก็จะไม่สามารถเพิ่มจำนวนและทำงานได้เต็มประสืทธิภาพ คือไม่สามารถจะ boom ขึ้นเพื่อดึงของเสียไปใช้ได้ดีพอ แล้วมันก็จะดรอป/ตายไปโดยแทบไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ที่หลายท่านอาจจะพาลโทษว่าแบคไม่ดี ยกเว้นว่าบางรุ่นอาจจะมีการผสมแบคมาพร้อมกับ Carbon Source (media) เลยเป็นต้น แต่ส่วนใหญ่มักแยกกันมามากกว่า ซึ่งมักจะเห็นว่า Brand ระดับโลก ก็มักจะเสนอขายแบค และ Carbon Source คนละขวดควบคู่กันมาครับ
Happy Reefing นะครับ ![😃](https://static.xx.fbcdn.net/images/emoji.php/v9/taa/1.5/16/1f603.png =16x16)
\
![80892142_2739096592818176_8461877315981279232_n.jpeg](file-guid:61aa9b7c-9695-4522-95e1-200edd526551 "80892142_2739096592818176_8461877315981279232_n.jpeg")