การใช้ skimmer ในระบบ Berlin ที่ถูกต้อง by Conan Sakdedeth Tarndamrong
Last updated
by
hipfood
สวัสดีครับเพื่อนๆ,
สำหรับอาทิตย์นี้ แทนที่จะส่งลิ้งค์มาให้ดู ผมอยากจะลองแชร์ประสบการณ์และแก้ไขข้อมูลบางอย่างในการเลี้ยงปลาทะเลของบ้านเราหน่อยนะครับ
หลายๆท่านอาจจะมีปัญหาเรื่องสารอาหารและการกำจัด โดยส่วนใหญ่ก็จะมี การตั้งระบบแบบใช้สกิมเม่อร์ โดยใช้สกิมเม่อร์อย่างดี แพง หรู แต่ก็ยังมีปัญหา เรื่องสารอาหารอยู่ดี, บ้างก็ลดไม่ลง, บ้างก็ลดได้แต่ได้ไม่หมด, บ้างก็ลดไม่ได้เลย..............ไปที่ไหนเขาก็บอกว่าสกิมไม่พอ อัพสกิม, บ้างก็บอกให้เอาATS ไปใส่ หรือเลี้ยงสาหร่าย
วันนี้ ผมจะขออธิบายเรื่องหลักการใช้สกิมเม่อร์ ที่ !!!ถูกต้อง!!! ตามแบบฉบับของ Berlin System จริงๆกันนะครับ
\~ถ้าขี้เกียจอ่านเนื้อหารายละเอียดข้ามจุดนี้ไปได้เลย\~
โปรตีนสกิมเม่อร์ ใช้หลักการ การปั่น สารละลายน้ำและสารแขวนลอยออกจากน้ำโดย ปฎิกิริยาระหว่าง อากาศ กับ น้ำ (Air-Water interface)
หลายๆคนคงพอเข้าใจนะครับ ว่าน้ำทะเลเนี่ย มีสารผสมอยู่เยอะมาก (มันเลยเค็มไง) โดย สารเหล่านี้เขาก็จะมี ขั้วประจุไฟฟ้า +/- ไปตามระเบียบ (ไม่เชื่อก็ลองจุ่มสายไฟลงตู้ปลา, ล้อเล่นนะอย่าทำเด๋วตายห่า) ซึ่งสิ่งนี้หละที่ทำให้โปรตีนสกิมเม่อร์ทำงานได้ เพราะว่า น้ำเค็มมีความหนืดและสารละลายเยอะ จึงทำให้สสารเหล่านี้เกาะตัวเป็นคราบหรือเมือกบนผิวน้ำ ตรงที่น้ำเจอกับอากาศ แล้วก็เกิดเป็นฟองที่แตกตัวช้า พอเราใช้ ปั๊มปั่นน้ำผสมกับอากาศให้ฟองถี่มากๆ สสารแขวนลอยและพวกคราบเมือก โปรตีนมันก็จะไปติดอยู่ตรงระหว่างฟองน้ำกับอากาศและถูกดันขึ้นด้านบน, เราเอาถ้วยมาวางให้มันล้นออกมา มันก็หลุดออกจากระบบละ. ง่ายมาก\~ แต่เอ๊ะ\~ แล้วไอ สสารที่ นายโคแนน ว่าถึงนี่มันคืออะไรหละ? แล้วไมผมมีสกิมดีแล้วยังกด \*ของเสีย\* ไม่ลง? สกิมผมไม่พอหรอ? ไม่ใช่ไม่พอ, แต่การแปลสภาพของเสียไม่พอต่างหาก..............หือ???? แปลสภาพยังไง???!?! ก่อนอื่น ต้องเข้าใจก่อนว่า โปรตีน สกิมเม่อร์ มันเอาไว้ สกิม (ก็คือดักคราบ) โปรตีน (โปรตีนอ่ะเข้าใจไหม) มันไมไ่ด้ชื่อ ไนเตรท สกิมเม่อร์ หนิจะได้ดักไนเตรทได้
\~เนื้อหาหลักอยู่ตรงนี้\~
โปรตีน สกิมเม่อร์ มีหน้าที่ดึง สสารโมเลกุลใหญ่ (โปรตีน) ออกจากน้ำ, นอกจากนี้ ก็ยังสามารถดัก สสาร ที่ทำปฎิกิริยากับ อากาศอื่นๆออกมาได้ด้วย (เช่น CaCO3, CO3, Fe+, PO4) แล้วทำไมเขาถึงบอกว่ามีสกิมเม่อร์ดีๆก็พอแล้วสำหรับตู้? เพราะว่า อย่างแรกที่สกิมเม่อร์เอาออกไงครับ: สสารโมเลกุลใหญ่นั่นแหละ, สัตว์ทุกตัวผลิตโปรตีนและมีโปรตีนหมด, โดยเฉพาะสัตว์ตัวเล็กๆ เช่น แบคทีเรีย, ไฟโตแพลงตอน, ยีส, โปรโตซัว และอื่นๆอีกมากมาย, ซึ่งสัตว์เหล่านี้ทุกตัวพอเข้าสกิมเม่อร์แล้วเป็นไง? โดนปั่นออกมาสิครับ, แต่สัตว์พวกนี้แหละ ที่เป็นตัวเปลี่ยนสารพิษ เช่นพวก แอมโมเนีย ให้กลายเป็น สารอาหารที่แท้จริง
ถ้าเราลองดู สิ่งมีชีวิตจริงๆ, จะเห็นได้เลยว่า สิ่งมีชีวิตต้องการ 3 อย่างหลักในการสร้างโมเลกุล นั่นก็คือ C (carbon), N( nitrogen) และ P (phosphorus) การทำงานของสกิมเม่อร์ในการลด ค่า เหล่านี้ คือการดึง ทั้งเมือกของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย, แบคทีเรีย, และแพลงต้อนออกจากน้ำ ทำให้ค่าสารอาหารที่พวกสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไปใช้สร้างเนื้อเยื่อของเขา หลุดออกจากระบบ (เป็น microbial export ชนิดหนึ่ง)
การจะเลี้ยงแบบ Berlin และประสบความสำเร็จจึงมีสูตรตามนี้
\~สูตรหลัก Berlin\~
1\. หินเป็นเยอะ (1lb/gallon) หรือเท่ากับ (120gram / Litre) เพื่อเป็นที่อาศัยให้กับสิ่งมีชีวิตเล็กๆไม่ว่าจะเป็น แบคทีเรีย หรือ พอต โดยที่ ถ้ายิ่งปลาเยอะ ก็ยิ่งต้องมี หินเยอะไปด้วยเพื่อบำบัดขี้ปลา
2\. น้ำไหลเวียนสูง: เมื่อการกำจัดสารอาหารส่วนเกินของคุณเหลือแต่เฉพาะ skimmerแล้ว คุณก็ต้องไหลเวียนน้ำมากขึ้น เพื่อให้หินเป็นไม่อุดตัน และ ทำพาพวกแบคทีเรียและ เมือกสัตว์ต่างๆออกจากตู้หลักและเข้าสกิมเม่อร์
3\. ปั๊มสกิมเม่อร์ที่ใหญ่และเหมาะสมกับตู้ : แน่นอนสกิมเม่อร์ของคุณก็ต้องใหญ่ตามตู้ไปด้วยเพราะกลายเป็นสิ่มเดียวที่คุณพึ่งได้ไปแล้ว การทำงานต้อง 100% ตลอดเพื่อกำจัดสารอาหารออกจากระบบ \*แต่ถ้าใหญ่เกิน ก็แย่นะจ๊ะ เพราะกำจัดแบคออกไปหมด ไม่มีตัวเปลี่ยน ของเสียให้เป็น แพลงต้อน สารเหลวก็ตกค้างในระบบอยู่ดี\*
วันนี้ก็เลยจะมาฝากกับเพื่อนๆนะครับ, ทาง Eco-reefing ไม่ได้แอนตี้สกิมเม่อร์แต่อย่างใด (โดยส่วนตัวแล้วแทบทุกคนก็ใช้กันมาทั้งนั้น) แล้วก็อยากให้ท่านใดที่ชอบใช้ระบบนี้ได้ใช้งานในแบบที่ถูกต้องต่อไปนะครับ
![13087803_10154093363523476_6617807922995612185_n.jpeg](file-guid:a8943a9d-2bf7-4c43-b1b5-d2fe0262917a "13087803_10154093363523476_6617807922995612185_n.jpeg")
![12593598_1349389708405716_7590953267135906989_o.jpeg](file-guid:a1d0b8cd-dda6-4304-8cc9-14ec37b4f688 "12593598_1349389708405716_7590953267135906989_o.jpeg")
hipfood ·
hipfood ·