จะตั้งตู้ทะเล ควรมีอะไรบ้าง (จากประสบการณ์ส่วนตัว) (สำหรับคนงบน้อย และยังไม่แน่ใจว่าจะชอบจริงหรือเปล่า) แต่ถ้าพอมีงบ แนะนำตามคุณตฤน ในคอมเม้นแรกครับ พอดีมีสามาชิกหลายๆท่านมาถามคำถามหลังไมค์หลายท่าน และมีสมาชิกใหม่ เข้ามาเยอะที่สนใจจะเริ่มเลี้ยงตู้ทะเล ผมขอสรุปแบบสั้นๆตามความเห็นส่วนตัวไว้ประมาณนี้เผื่อใครสนใจครับ 1 เวลา 2 งบประมาณ รายเดือน 1500บาทขึ้นไป (ไม่รวมงบประมาณตั้งตู้) 3 ความรู้ จะทำให้ใช้เวลาน้อยลง และใช้งบประมาณลดลง อุปกรณ์ที่จำเป็น ตู้ปลา ขนาดและแบบตามใจชอบ อะไรก็เลี้ยงได้หมด แนะนำเริ่มจากเล็กๆก่อน เพราะประหยัดกว่าตู้ใหญ่ๆ และถ้าคุณรักตู้ทะเลจริงๆสุดท้ายเลี้ยงไปแล้วก็จะเปลี่ยนตู้อยู่ดี แต่ถ้าไม่ชอบก็คงเลิกเลี้ยงภายในเวลาไม่นาน เลยแนะนำเอาตู้เล็กๆลองดูก่อนครับ ขาตู้ ขาเหล็กก็ได้ ประหยัดดี แต่ถ้ามีงบ ขาไม้จะทนกว่า แต่เหตุผลเดียวกับตู้ สุดท้ายก็เปลี่ยนตู้อยู่ดี เอาขาอะไรก็ได้ ปั๊มน้ำ ปั๊มคลื่น อะไรก็ได้ตามงบ กรองล่าง กรองข้าง กรองแขวน แล้วแต่สะดวกครับ เลี้ยงได้หมด หินเป็น หินตาย แล้วแต่สะดวก ใช้ได้เหมือนกัน แค่ถ้าได้หินเป็นดีๆ ก็จะดีกว่า แต่หินเป็นบางทีก็มีตัวปะหลาดที่เราไม่อยากได้ติดมาด้วย ไฟ สำหรับตู้ปลาล้วน จะใช้อะไรก็ได้ ส่วนเลี้ยงปะการัง แนะนำให้ใช้ ไฟ DIY จะประหยัดงบประมาณพอสมควร และได้ความสว่างที่เพียงพอสำหรับปะการัง ระบบทำความเย็น ตู้ทะเลแนะนำให้อุณหภูมิในตู้ ไม่ควรเกิน 30องศา สามารถเลี้ยงปะการังและปลาได้ทุกชนิด จะใช้ชิลเลอร์ ใช้พัดลม เปิดแอร์ หรืออะไรก็ได้ อย่าให้มันเกิน30 เป็นใช้ได้ สกิมเมอร์ จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ แต่มีก็ดีกว่าไม่มี ยี่ห้อ weipro ไม่แนะนำเพราะประสิทธิภาพไม่ดีเท่าไหร่ อย่างน้อยก็ยี่ห้อ bublle magus รุ่น qq1 ขึ้นไป (ตามขนาดตู้ และงบประมาณ) ไม่จำเป็นต้องใหญ่หรือแพงเกินไป ระบบกำจัด NO3 เลือกใช้ได้หลากหลายวิธี แต่ต้องมี เช่น VSV, Biopellet, ATS, เลี้ยงสาหร่าย (สามารถใช้หลายวิธีรวมกันได้ แต่ต้องมีเพื่อควบคุมคุณภาพน้ำในระยะยาว) หากไม่มี อาจมีผลกระทบกับ ปะการังหลายชนิด และปลาบางชนิด ระบบกำจัด PO4 เลือกใช้ได้หลายวิธี แต่ต้องมี เช่น Rowaphos, GFO(ยี่ห้ออื่นๆ) ,ATS, เลี้ยงสาหร่าย(สามารถใช้หลายวิธีรวมกันได้ แต่ต้องมีเพื่อควบคุมคุณภาพน้ำในระยะยาว) หากไม่มี จะมีตะไคร่และมีผลกับปะการังหลายชนิด การปูทราย สามารถปูได้ตามต้องการ ถ้ามีงบประมาณ แนะนำ คาริบซี แต่ราคาสูง ถ้างบน้อยจะใช้ทรายทะเลทั่วไปหรือใช้ปะการังบดก็ได้แต่อาจเจอปัญหา po4 สูงในช่วงแรกๆ แต่ระยะยาวไม่มีปัญหาอะไร น้ำยาเทสต่างๆ หากเลี้ยงปลาล้วน ควรมีอย่างน้อย ph,no3 แต่ถ้างบเหลือ จะเพิ่ม nh4,no2 ด้วยก็ไม่ผิดอะไร น้ำยาเทสต่างๆ สำหรับเลี้ยง ปะการัง ควรเทส ca ka mg no3 po4 K ph เป็นอย่างน้อย เพื่อเป็นสิ่งที่ช่วยแก้ปัญหาเบื้องต้นได้ดี เพราะรุ้ค่าต่างๆสำหรับการป้องกัน หรือแก้ปัญหาต่างๆ หากใช้การเปลี่ยนน้ำอย่างเดียว หากไม่เจอปัญหาก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้ามีปัญหา การเปลี่ยนน้ำอย่างเดียวจะแก้ปัญหาระยะยาวไม่ได้ อุปกรณ์วัดความเค็ม แนะนำแบบกล้องส่องเท่านั้น ไม่แนะนำแบบตวงทุกชนิด เพราะไม่แม่นยำ เกลือ หรือ น้ำทะเล ก็ได้ แล้วแต่สะดวก ใช้เกลือก็ควบคุมคุณภาพได้ง่ายหน่อย ใช้ได้ทุกยี่ห้อ ตั้งแต่ marinium aquaraise Blueocian redsea H2O aquaforest faunamarine ใช้ได้หมดเลี้ยงปะการังได้หมด แต่ของถูกอาจต้องเติมเคมีบางชนิดเพิ่มนิดหน่อย แบคทีเรียแนะนำแบบน้ำเป็นขวด (สีฟ้า) ราคาและคุณภาพคุ้มค่ามาก ระบบตู้ทะเล คือการรักษาค่าต่างๆให้อยู่ในย่านที่เหมาะสมคล้ายคลึงกับในทะเล หากเราควบคุมปัจจัยต่างๆให้อยู่ในระดับนั้นได้ ก็สามารถเลี้ยงได้ โดยสามารถเลือกใช้วิธีอะไรก็ได้ คุณภาพน้ำคือสิ่งสำคัญที่สุดในการเลี้ยงตู้ทะเล คลื่นคือปัจจัยรอง และสุดท้ายคือแสงสว่าง การรันระบบ ควรรอให้ค่าของเสียลดลงจนอยู่ในระดับต่ำ ปลอดภัยต่อสิ่งมีชีวิตแล้ว จึงค่อยลงปลา หรือ ปะการัง และการลงสิ่งมีชีวิต ควรค่อยๆทะยอยลง เพื่อให้ระบบสามารถรับกับของเสียต่างๆได้ ตะไคร่ สามารถควบคุมได้ด้วยการลด no3 และ po4 โดยใช้น้ำ RO และระบบกำจัดต่างๆตามวิธีด้านบน ค่า no3 ที่แนะนำเสมอคือ ควรต่ำกว่า 20 ppm แต่ไม่ควรเป็น 0 ค่า po4 ที่แนะนำเสมอคือ ควรต่ำกว่า 0.1 ppm แต่ไม่ควรเป็น 0 ค่าเคมีอื่นๆ แล้วแต่ผู้เลี้ยงจะควบคุมเองตามสะดวก (อ่านได้จากเรื่อง ตัวย่อต่างๆในปักหมุด) ขอให้มีความสุขในการเลี้ยงตู้ทะเลครับ ^ _^