ความรู้พื้นฐานเรื่อง VSV ลด NO3
Last updated
by
hipfood
VSV/VGV (Vodka Sugar/Glucose Vinegar) หรือ Carbon Dosing
สเปคตู้ผมคือ 24 16 16 น้ำในระบบประมาณ 150 ลิตร เคยใช้ skimmer JNS CO3 (ตอนนี้ไม่ใช้แล้วครับ ใช้ ATS refugium แทน แต่ก็ยังโดส VSV ทุกวัน) ทุกวันนี้โดสอยู่ ครั้งละ 4 ml 4 ครั้ง/วัน ใช้โดสซิ่งนะครับ เคยโดสสูงสุด 40 ml/100L/วัน แบ่งใสทุกชั่วโมงโดยโดสซิ่งเหมือนกัน
VSV หรือ Carbon Dosing คืออะไร
VSV ย่อมาจาก Vodka Sugar Vinegar แปลไทยคือ ว้อดก้า น้ำตาล น้ำส้มสายชู มันเป็น Organic Carbon Source ให้แบคทีเรีย หรือพูดง่ายคืออาหารของแบคทีเรียครับ
VSV หรือ Carbon Dosing มีประโยชน์อะไร
ช่วยลด NO3 PO4 ครับ ถ้าเลี้ยงมาสักพักจะรู้ว่าค่า NO3 PO4 ลดยากมาก ขึ้นแสนจะง่ายดาย จริงๆแล้วมันก็ลด NO2 ด้วยนะ แต่ในที่นี้เราจะไม่ค่อยพูดถึงเพราะปกติแล้ว NO2 จะต้อง 0 ตลอดอยู่แล้ว
หลักการทำงานของมันก็คือโปรโมทแบคทีเรียแทบทุกชนิด รวมไปถึงแบคในกลุ่มที่กำจัด NO2 NO3 PO4 หรือในกลุ่มแบคที่ทำหน้าทีย่อยตะกอนด้วย โดยแบคทีเรียนำมาใช้โดยกิน vsv ที่เราโดสครับ แต่ตัวที่ส่งผลให้วิธีการนี้ประสบความสำเร็จมาก น่าจะเป็นแบคฯ ที่ล่องลอยอยู่ในน้ำ เพราะเราสกิมออกได้ (ไม่แน่ใจว่าสายพันธุ์ไหนบ้าง เขาเรียกรวมๆ ว่า Bacterioplankton) ข้อพิสูจน์ก็คือ skimmate ที่เพิ่มขึ้น และสังเกตได้จากพวกฟองน้ำ/กัลปังหาจะงอกงามขึ้นแม้ไม่ต้องให้อาหารอื่น เพราะมันสามารถกรองกินพวก Bacterioplankton ที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นอาหารได้ครับ แต่เรื่องแบคฯ และวงจรของมันซับซ้อนมาก มันไม่ได้มีเพียงวงจรไนโตรเจน แต่มันยังมีวงจรฟอสฟอรัส ซัลเฟอร์ คาร์บอน.. ซึ่งมีความเกี่ยวโยงสัมพันธ์กันโดยมีแบคฯชนิดต่างๆเป็นตัวเชื่อมโยงครับ อย่างตัวที่เราคุ้นเคยคือ แบคฯที่อยู่ในกระบวนการ Nitrification และ Denitrification ซึ่งตัวหลังนี้เราก็พอได้ยินกันว่าไม่ไม่ค่อยต้องการ O2 ในน้ำ เพราะมันจะดึง O2 จาก NO3 แล้วปล่อยกาซไนโตรเจนออกไป ซึ่งกระบวนการนี้เป็นไปอย่างช้าๆ และจะอยู่ลึกในชั้ยหิน/ทราย แต่อย่างไรก็ดีการเติม Carbon ก็ช่วยให้กระบวนการนี้ทำงานดีขึ้นด้วย แต่ไม่น่าใช่กระบวนการหลักที่ทำให้ NO3 ลดลงโดยวิธีการของ Carbon Dosing นี้ ครับ
แต่ไอ้แบคฯ ที่เราว่ามันล่องลอยในน้ำกินเร็วและใช้ O2 ด้วยสิ (เราสังเกตได้ว่าถ้ามันบูมมากๆ แล้ว O2 ไม่พอ pH จะตก หรือ O2 อาจไม่พอถึงขั้นตู้ล่มได้) ตัวนี้แหละน่าจะเป็นหัวใจสำคัญของวิธีการนี้ครับ ซึ่งมันต้องการพลังงานจากอาหาร คือ C, N, P ชึ่ง 2 ตัวหลัง มีมากอยู่แล้วในตู้ระบบปิดคือ ไนเตรท และ ฟอสเฟต (ชึ่งหลังๆ ผมชักไม่แน่ใจว่า แบคฯตัวนี้มันรอกินไนเตรท หรือมันเขมือบเสียตั้งแต่ยังเป็นแอมโมเนีย/ไนไตรท์ เลยกันแน่ แต่ไม่ว่ามันจะกินแอมโมเนีย/ไนไตรท์/ไนเตรท สุดท้ายมันก็ทำให้ไนเตรทซึ่งเป็นของเสียตัวสุดท้ายลดลงอยู่ดีครับ ผมว่ามันกินเหมือนเขมือบนะ ไม่ได้กินแบบ Oxidize O2) กลับมาตรงที่ C:N:P ที่ Bacterioplankton พวกนี้กินเข้าไปเพื่อไปสร้างพลังงานไปสร้าง biomass ของตัวมัน มันต้องการ C:N:P ในอัตราส่วน 106:16:1 ที่เขาเรียกกันว่า Red Field Ratio ดังนั้นถ้าเราต้องการให้มันกิน P(ฟอสฟอรัส/ฟอสเฟต)ได้ 1 หน่วย เราต้องมี C(คาร์บอน)ให้มันกิน 106 หน่วย และมี N(ไนโตรเจน/ไนเตรท)ให้มันกิน 16 หน่วย เพื่อนำไปสร้างเซลส์ไบโอแมสของมันก่อนที่จะถูกสกิมเมอร์ปั่นออกไปครับ นี่จึงเป็นที่มาของ Carbon Dosing เช่น VSV, Bio Pellet และเขาจึงมักแนะนำว่าถ้าโดส VSV / Bio Pellet ไม่ควรใช้ Phosphate Remover เพราะบางทีมันจะไปรบกวนสมดุลตรงนี้ครับ นอกจากตู้ที่มีฟอสเฟตสะสมมากๆ ก็อาจใช้ Phosphate Remover หรือ ถ่ายน้ำจนฟอสเฟตลดลงมาค่อนข้างต่ำ ก่อนแล้วค่อยใช้ Carbon Dosing ในขั้นต่อไป ลองสังเกตดูว่าบางท่านอาจสงสัยว่าทำไมใช้ VSV แล้วไนเตรทเป็น 0 แล้ว แต่ฟอสเฟตก็ยังกดไม่ลง ก็อาจมาจากสาเหตุนี้ครับ เมื่อเราใช้วิธี Carbon Dosing ได้ผลแล้วก็จะทำให้ตู้เราเป็นระบบ LNS (Low Nutrient System) หรือ ULNS (Ultra Low Nutrient System) คือมีของเสีย/สารอาหารต่ำ หรือ ต่ำมาก นั่นก็คือน้ำสะอาดนั่นเอง ส่งผลให้ 1.ไม่มีปัญหาเรื่องตะไคร่/สาหร่ายไม่พึงประสงค์ 2.สัตว์น้ำสุขภาพดี 3.ปะการังสีสดใสขึ้น เหตุที่ปะการังสีสดใสขึ้น เพราะ เมื่อมีของเสีย/สารอาหารน้อย สาหร่าย Zooxanthellae ในปะการัง (ซึ่งมีสีออกน้ำตาลอมเขียว อาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อปะการังแบบพึ่งพาอาศัยกัน - Symbiosys) ซึ่งทำหน้าที่สังเคราะห์แสงเป็นแหล่งผลิตอาหารให้ปะการังก็จะมีสารอาหารที่นำมาใช้สังเคราะห์แสงน้อยลง ทำให้ลดจำนวนลง ปะการังจึงโชว๋สีสันแท้จริงของตัวมันได้ชัดเจนขึ้น รวมถึงต้องสร้างเซลสีเพิ่มเพื่อป้องกันแสงเมื่อ Zooxanthellae ลดลงด้วย และเมื่อปะการังสังเคราะห์แสงน้อยลง ก็หันมากินพวก Bacterioplankton ที่มีในระบบมากขึ้นเพิ่มขึนแทน อย่างไรก็ดีถ้าสารอาหารต่ำมากๆ จนเกินไป แม้ปะการังจะสีสวยมากแต่ก็อาจไม่เป็นผลดีในระยะยาวกับตัวปะการังก็ได้ (อะไรที่มันเกินธรรมชาติมากๆ เกินไป) บางระบบก็แนะนำว่าถ้าจะเลี้ยงให้ปะการังโตเร็ว ก็ใช้แค่ LNS (Low Nutrient System)ก็พอ คือให้เหลือสารอาหารไว้บ้างในระดับต่ำๆ แต่เมื่อปะการังโตถึงจุดที่ต้องการแล้วก็พยายามปรับระบบให้เป็น ULNS (Ultra Low Nutrient System)คือไม่เน้นโตแล้ว เน้นสีสันอย่างเดียว เท่าที่พอทราบมาก็เป็นประมาณนี้ครับ
เหตุที่ต้องมีสกิมเมอร์ดีๆ ก็เพื่อปั่นเอาแบคพวกนั้นออกก่อนมันตายและปล่อย NO3 กลับเข้าระบบ ซึ่งผมเคยเห็นจากตู้น้องคนนึงครับ ไม่ได้ล้างสกิมมา 3 ปี ปั่นของเสียไม่ออกจริงๆ โดส VSV เท่าไรก็ไม่ลงครับ พอล้างสกิมเท่านั้นแหละ ลงเลย แต่ตอนนี้ผมใช้ ATS แทนสกิมไปแล้ว NO3 ในระบบก็ยัง 0.0 ppm อยู่อย่างต่อเนื่องครับ
เหตุ ที่ต้องค่อยๆทำก็คือเพื่อป้องกันแบคบูมจนน้ำขุ่น เพราะแบคพวกนี้เป็นพวกใช้ O2 ถ้าบูมมาก ก็แย่งอากาศจากปลาและก้นตู้ ทำให้เสี่ยงตู้ล่มได้ครับ แต่ก็ยากอยู่นะครับ ตู้ทะเลมันไม่ได้ล่มง่ายๆ ยกเว้นแต่จะเจออุบัติเหตุ เช่น แอนติดปั๊ม เป็นต้น
\*\*\* ข้อควรระวัง \*\*\*
VSV มันจะทำให้สกิมเมอร์ทำงานดีขึ้น หากตั้ง wet อยู่ควรดูว่าจะล้นถ้วยมั้ย
ควรวัด ph บ่อยๆ เนื่องจากแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดีเพราะฉะนั้นถ้าแบคทีเรียมีมากเกินไป ph อาจจะตก เนื่องจากแบคบูม ถ้าบูมหนักแบบ O2 หมดตู้อาจจะล่มครับ
ข้อสังเกตุ
1\.ถ้าที่กระจกมีเมือกขาว หรือ เมือกน้ำตาล เกาะกระจก หรือมีตะไคร่น้ำตาลเป็นเส้นๆลอยไปเกาะตามปกร แสดงว่า vsv มากเกินไปแล้วให้ลดลงครับ
2\.ดูน้ำ ถ้ามันขุ่นเหมือนแบคบูม ก็รีบแก้ไขครับ โดยการเปลี่ยนน้ำครับ
3\.kh อาจจะตกต้องเฝ้าระวัง (ถ้าแบคมากเกินไป)
ส่วนผสมที่ผมเคยใช้ (เรียงตามลำดับ)
Vodka : Sugar/Glucose\*\* : Vinegar
25 ml : 15 g : 225 ml
225ml : 15 g : 25 ml
125ml : 15 g :125 ml
100ml : 50g : 900ml (3ml/100L) (ปัจจุบันใช้สูตรนี้)
\*\* Glucose ผมซื้อที่ศึกษาภัณฑ์ ถ้าหาได้ใช้ glucose จะดีกว่า
Vodka ในที่นี้คือ เหล้าขาว หรือ เหล้าที่มีน้ำใสๆ มีราคาตั้งแต่ถูกยันแพง เช่น เหล้าขาว เหยี่ยวเงิน absolute หรือแม้กะทั่ง สาเก โซจู
Sugar/Glucose อันนี้ก็จะใช้พวก lactose galactose (หายากกว่าเดิมอีก 55) ยังมีอีกหลายตัว เอาแค่พวกนี้ละกัน
Vinegar คือน้ำส้มสายชู หรือ ถ้าใครหา Acetic acid ได้ก็ใช้ได้ครับ ปรับอัตราใช้ตามความเข้มข้นเองนะ
วิธีใช้
เริ่มแรกผมแนะนำให้ใช้แต่น้อยๆ ใจเย็น ค่อยๆดูผลนะครับ
เราต้องการจุดสมดุลของของเสียที่เกิดขึ้นในระบบกับ vsv ที่จะเติม ย้ำอีกทีว่าใจเย็นๆนะครับ
วัด ความเค็ม และ NO3 จดค่าไว้
เติมเช้าเย็น ครั้งละ 1 ml/100 L 7 วัน หรือ จะแบ่งใส่หลายๆรอบก็ดี แต่รวมแล้วต่อวันต้องได้ปริมาตรเท่าเดิม
วัดความเค็ม และปรับให้ได้เท่าข้อ 1 ก่อน แล้วค่อยวัด NO3
เปรียบเทียบค่า NO3 ถ้าไม่ลดลงเลย ให้เพิ่มทีละ 1 ml/100L
อีก 7 วันก็วัดดูใหม่ แล้ว ทำเหมือนเดิม
ที่นี้พอค่า NO3 อยู่ในระดับที่พอใจแล้วให้ลดโดสลงไปสักครึ่งนึงแล้วอีกสัก 2-3 วันวัดค่าน้ำดูว่า NO3 ขึ้นมั้ย ถ้าไม่ขึ้นก็ลดอีก ทำซ้ำไปเรื่อยๆจนมันขึ้นสักเล็กน้อยแล้วก็ลองเพิ่มนิสนึง คือพยายามหาจุดที่เราโดสน้อยที่สุด
ทุกวันนี้ผมโดสเหลือ 1 ml/100L/วัน
หรือบางท่านจะใช้น้ำส้มสายชูอย่างเดียวก็ได้ครับ วิธีใช้ก็เหมือนกัน คือใช้น้อยๆก่อนแล้ววัดเอา ที่ใช้น้ำส้มสายชูอย่างเดียวก็เพราะว่า มีงานวิจัยพบว่า Cyano Bacteria ชอบสารที่มีหมู่ -OH ซึ่งก็คือ vodka และ น้ำตาล และ Cyano ชอบเกินในสภาวะที่ มี PO4 สูง NO3 และ Fe ต่ำ
[http://reefkeeping.com/.../116-vinegar-dosing-methodology...](http://reefkeeping.com/.../116-vinegar-dosing-methodology...)