The Role Of Potassium [K] by Tom Nagasara
Last updated
by
hipfood
The Role of Potassium (K)
ตั้งแต่สมัยเด็กๆ ถ้าเรียนเรื่อง "ปุ๋ยพืช" คงนึกถึง N (Nitrogen), P (Phosphorus), K (Potassium) กันได้แน่ๆ ใช่มั้ยครับ หรือถ้าใครเล่นตู้ไม้น้ำก็คงพอทราบว่าปุ๋ยตัวหลักที่มักเติมลงตู้ก็คือ "K" เพราะ N, P ค่อนข้างมีเหลือเฟือกันอยู่แล้ว การที่เติม K ลงไปก็จะช่วยให้ไม้น้ำสามารถดึง N, P ไปใช้เป็นประโยชน์ในการเติบโตของพืชร่วมกับการสังเคราะห์แสง ซึ่งพืชจะใช้พลังงานแสง + CO2 (Inorganic C) + น้ำ สร้าง Carbohydrate (Organic C) สะสมไว้เป็นพลังงาน (พลังงานส่วนหนึ่งก็น่าจะถูกนำมาใช้ในการดึง N P K ขึ้นมาจากพื้นดิน (หรือ Substrate ต่างๆ ในกรณีพืชน้ำ) เพื่อมาร่วมสังเคราะห์เป็นโปรตีน(สารประกอบ Hydrocarbon) ใช้ในการเจริญเติบโตต่อไปนั่นเอง
ย้อนกลับมาที่ตู้ทะเลบ้าง "ปะการัง" เป็นสัตว์ที่มีคุณลักษณะกึ่งพืช เพราะมีสาหร่าย Zooxanthellae อาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อของมัน (ยกเว้น NPS) ซึ่ง Zooxanthellae เป็นพืชจึงย่อมต้องการ N P K ด้วยในลักษณะที่คล้ายๆ กับพืช/สาหร่ายทะเลเช่นกัน นอกจากนี้แล้วในความเป็นสัตว์ของปะกรัง มันก็มีการจับกินอาหารเพื่อหาอาหารที่เป็นโปรตีนด้วย โดยอาศัยพลังงานที่ได้จาก Zooxanthellae มาจับอาหารกินนั่นเอง ดังนั้นที่ว่าปะการังพวก SPS, LPS อยู่ได้ด้วยการสังเคราะห์แสงอย่างเดียวนั้น จึงเป็นแนวคิดที่น่าจะตกยุคไปแล้ว เพราะการสังเคราะห์แสงจะได้หลักๆ คือ Organic C หรือ Carbohydrate ซึ่งเป็นพลังงานเท่านั้น แต่การเติบโต สืบพันธุ์ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต้องใช้"โปรตีน" ซึ่งก็ได้มาจากกระบวนการร่วมสังเคราะห์กับฝั่งสารอาหารหลัก N P K นี่ล่ะครับ ซึ่งแนวคิดนี้ก็สามารถประยุกต์ใช้กับพวกสาหร่ายทะเล รวมไปจนถึงจุลินทรีย์ต่างๆ ด้วยครับ (จุลินทรีย์ก็มีทั้งสังเคราะห์และไม่สังเคราะห์แสง คล้ายๆ กับปะการังที่มีทั้ง SPS, LPS และ NPS ซึ่ง NPS จับกินอาหารอย่างเดียวไม่สังเคราะห์แสง)
ทีนี้ถ้าจะลองแบ่งแร่ธาตุหลักๆ ในตู้ทะเล ตามความคิดของผมก็อาจจะแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่
1. ด้านโครงสร้างฯ ธาตุหลักคือ Ca, Mg, KH (Alkalinity : Carbonate(CO3)/Bicarbonate(HCO3) : Inorganic C ) ส่วนธาตุรอง เช่น Sr, Ba, F ฯลฯ รวมถึง K ด้วยครับ
2. ด้านเนื้อเยื่อธาตุหลักคือ N, P, K, C (Organic C) ธาตุรอง เช่น I, Fe, Mn, B ฯลฯ ซึ่งก็จะรวมไปถึงเรื่องสีสันด้วย เพราะสีส่วนใหญ่ของปะการังก็มาจากโปรตีน (Chromoproteins) นั่นเองครับ ส่วน N, P นั้นเป็นที่รู้กันว่าต้องพยายามให้ต่ำๆ ไว้ (แต่อย่าให้ 0 สนิท) ไม่งั้นปะการังจะดำ เพราะ Zooxanthellae มีมากเกินไป หรือถ้ามี N P มากจนเกินไปก็จะทำให้ปริมาณ Zooxanthellae มากจนเกินสมดุลจนทำให้ปะการังเสียหายได้ครับ จริงๆ ผมคิดว่า C อาจจะไม่ได้เกี่ยวโดยตรงนัก แต่มันน่าจะมีความสัมพันธ์ต่อการใช้ N, P ตามหลักการของ Redfields Ratio
จากข้างต้นก็จะพอเห็นว่าแร่ธาตุตัวที่มีผลทั้งในด้านโครงสร้างและด้านเนื้อเยื่อคือ C และ K ดังนั้นมันน่าจะมีความสำคัญพอสมควรทีเดียว ซึ่ง C ได้พูดถึงไปบ้างแล้วในเรื่อง Carbon Cycle ส่วนความสำคัญของ K นั้น ดังเช่นข้อความที่ว่า..
" Potassium plays as essential role in the transportation of coral nutrients within the soft tissue (including the nutrients provided by Zooxanthellae). "
" Potassium and Boron significantly affect the alkalinity of coral soft tissue and the formation of aragonite in lts skeleton. "
" Potassium is related to the red chromo-proteins. " (มีผลต่อสีแดงของปะการัง)
และไม่ใช่เฉพาะแค่ปะการังเท่านั้น แต่ K ยังมีความสำคัญต่อการทำงานในชั้นเซลล์ของพืชและสัตว์ต่างๆ ซึ่งนั่นก็หมายรวมถึงการทำงานของสาหร่ายต่างๆ รวมถึง Coralline Algae หรือแม้แต่จุลินทรีย์/แบคทีเรียที่เป็นตัวพื้นฐานสำคัญในการช่วยโอบอุ้มระบบตู้ทะเลให้เราด้วยครับ
" Potassium is necessary for the function of all living cells, and is thus present in all plant and animal tissue. "
"Potassium is the key element in marine tanks and fundamental for stony corals."
อีกตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นเรื่องความสำคัญของ K ได้ค่อนข้างชัดเจนก็คือเรื่อง "หญ้าทะเล" ซึ่งเมื่อก่อนอาจจะเคยได้ยินกันมาว่ามันเลี้ยงไม่รอดในตู้ทะเล แต่ระยะหลังในกลุ่ม Eco.เราก็สามารถเลี้ยงจนลาม/ขยายพันธุ์ได้ นั่นก็เพราะเราให้ความสำคัญเรื่องค่า K (รวมถึงธาตุรองบางตัวด้วย) เหตุที่หญ้าทะเลต้องการ K มากเป็นพิเศษนั้นก็น่าจะมาจากการที่มันวิวัฒนาการจากพืชบกลงไปอยู่ในทะเล จึงยังมีระบบรากแท้เช่นเดียวกับหญ้าบก (ไม่เหมือนรากเทียมของพวกสาหร่าย Macro Algae) ซึ่งความเหมือนพืชบกนี่น่าจะทำให้มันต้องการ K สูง ซึ่งตู้ทะเลสมัยก่อนไม่ค่อยได้ให้ความสนใจเรื่อง K จึงน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้บอกว่ามันเลี้ยงไม่รอดครับ
แม้ว่าปะการังส่วนใหญ่อาจจะทนต่อสภาวะในตู้ที่มีค่า K ต่ำๆ ได้ แต่ก็อาจไม่ส่งผลดีเท่าที่ควรนัก อีกทั้งค่า K ที่ต่ำเกินไปก็จะทำให้วงจรการจัดการของเสียต่างๆ ในระบบโดยพืชและแบคทีเรีย ซึ่งต้องอาศัย C N P K ทำงานได้ไม่เต็มที่ไปด้วย อย่างไรก็ดีค่า K ที่สูงเกินไปก็อาจมีผลเสียต่อปะการังและสัตว์ต่างๆ ได้เช่นกัน ค่า K ที่เหมาะสมและปลอดภัยควรใกล้เคียงค่ามาตรฐานของน้ำทะเล คือ \~ 400 ppm +/- 20
K ที่มีการนำมาใช้กับตู้ไม้น้ำหรือตู้ทะเลเช่น KCl (Potassium Chloride), KI (Potassium Iodide), K2SO4 (Potassium Sulphate), K2CO3 (Potassium Carbonate) และ KHCO3 (Potassium Bicarbonate) เป็นต้นครับ
ในตู้ไม้น้ำถ้าใบไม้เริ่มแคระแกรน มีสีซีด/เหลือง เป็นรู ก็อาจจะพอคาดได้ว่า K น่าจะต่ำแล้ว ส่วนในตู้ทะเลอาการที่อาจจะดูได้ง่ายสุดเช่น Coralline Algae เลี้ยงๆ ไปแล้วสีม่วงๆ เริ่มซีดลง, สาหร่ายคีโตเริ่มไม่ค่อยเขียวและเส้นเล็กลง, เนื้อที่ฐานปะการังเริ่มหด/ร่นเล็กลง เป็นต้น ส่วนอาการ K เกิน ก็อาจมีตะไคร่เพิ่มขึ้น, ปะการังมีสีน้ำตาลมากไป, หรือมีอาการปลายไหม้ได้ด้วย อย่างไรก็ตามอาการต่างๆ ที่คล้ายๆ กัน อาจมาจากสาเหตุอื่นก็เป็นได้ ดังนั้นเพื่อความมั่นใจและปลอดภัยควรใช้ชุดเทส K ซึ่งยังพอหาซื้อกันได้อยู่นะครับ ส่วนอะไรถ้าไม่มั่นใจโดยเฉพาะสำหรับ K เขาให้เลือกน้อยเอาไว้ก่อนนะครับ
Happy Reefing
![67806121_2474923999235438_409342204721496064_n.jpeg](file-guid:257f3a56-92cb-4d0f-92c6-73cec0b6264b "67806121_2474923999235438_409342204721496064_n.jpeg")
![67944254_2474924042568767_8579685756354691072_n.jpeg](file-guid:a6af7b67-4319-4480-8dcc-f577b46310e6 "67944254_2474924042568767_8579685756354691072_n.jpeg")
![68675906_2474924079235430_1937785348696309760_n.jpeg](file-guid:e04eef50-8527-4a4e-8b9d-967df536c801 "68675906_2474924079235430_1937785348696309760_n.jpeg")
![68697565_2474924122568759_1669556386133966848_n.jpeg](file-guid:13cbf6d3-8891-4805-b506-399aee752d45 "68697565_2474924122568759_1669556386133966848_n.jpeg")
![67868261_2474924182568753_6674565609629417472_n.jpeg](file-guid:2beced8e-9d91-4a2d-bb51-6d3bb46eed35 "67868261_2474924182568753_6674565609629417472_n.jpeg")
![67806121_2474924242568747_4129955687574798336_n.jpeg](file-guid:bab2dd72-8f26-4d30-8cf0-2e22f721cbce "67806121_2474924242568747_4129955687574798336_n.jpeg")
![68252407_2474924279235410_4058567545794330624_n.jpeg](file-guid:6fde167f-be74-464f-8e1c-49b05f15a553 "68252407_2474924279235410_4058567545794330624_n.jpeg")
![68731254_2474924329235405_6443564903897759744_n.jpeg](file-guid:d7896d73-59e4-4d15-b95f-0e83bfec143c "68731254_2474924329235405_6443564903897759744_n.jpeg")